เพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากลปี 2018 นีลเส็นได้วิเคราะห์ชุดข้อมูลความบันเทิงอันครอบคลุมของ Gracenote เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับความก้าวหน้าของความเท่าเทียมทางเพศ โดยทบทวนข้อมูลอันล้ำค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งย้อนกลับไปถึงช่วงต้นทศวรรษปี 1900 เรามุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาสำคัญสำหรับผู้หญิงในด้านกีฬา ภาพยนตร์ และดนตรี
ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 ที่เพิ่งจบลงไปไม่นานนี้ เหรียญรางวัล 43% เป็นเหรียญรางวัลจากการแข่งขันที่เปิดให้เฉพาะนักกีฬาหญิงเข้าแข่งขัน ในขณะที่นักกีฬาชายเข้าแข่งขันเพียง 48% ซึ่งถือเป็นช่องว่างระหว่างชายและหญิงที่แคบที่สุดในประวัติศาสตร์โอลิมปิก เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และสวีเดน เป็น 3 ประเทศที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในตารางเหรียญรางวัลในแง่ของผลงานของนักกีฬาหญิง โดยนักกีฬาหญิงคิดเป็นอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเหรียญรางวัลทั้งหมดที่แต่ละประเทศได้รับในพยองชาง
นักกีฬาหญิงชาวอเมริกันประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2503 โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกที่ได้รับเหรียญรางวัลอย่างน้อย 10 เหรียญขึ้นไป และได้รับรางวัลอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจากการแข่งขันประเภทหญิงล้วนในกีฬา Squaw Valley Games เมื่อปีพ.ศ. 2503 ในการแข่งขันล่าสุด ทีมฮอกกี้น้ำแข็งหญิงของสหรัฐฯ (เจมี่ แอนเดอร์สัน มิคาเอลา ชิฟฟริน โคลอี คิม เจสสิก้า ดิกกินส์ และคิกกัน แรนดัล) เป็นผู้ผลักดันให้สหรัฐฯ ได้รับเหรียญรางวัลรวมทั้งหมด และครองเหรียญรางวัล 52% ของนักกีฬาหญิงของสหรัฐฯ ที่คว้ามาได้ในกีฬาพยองชาง
อย่างไรก็ตาม นักกีฬาหญิงของสหรัฐฯ ไม่ใช่คนเดียวที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 สำหรับสวีเดน นักกีฬาหญิงคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้านไป 71% ของเหรียญรางวัลทั้งหมดของประเทศ และสำหรับเนเธอร์แลนด์ นักกีฬาหญิงคว้าเหรียญรางวัลไปได้ 60% ของเหรียญรางวัลทั้งหมดของประเทศ
เรื่องราวใหญ่ 2 เรื่องของการแข่งขันกีฬาฤดูหนาวปีนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงด้วย โดยเอสเตอร์ เลเดคกา จากสาธารณรัฐเช็กคว้าเหรียญทองจากกีฬา 2 ประเภท และมาริท บยอร์เกน นักสกีครอสคันทรีจากนอร์เวย์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 8 ทำให้เธอทำลายสถิติคว้าเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาวได้มากที่สุด

หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้หญิงในวงการดนตรี โปรดอ่านบทความ Celebrating Women in Music ของเรา