อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักในการโฆษณาแบบตอบสนองโดยตรงและถือเป็นช่องทางสำหรับผู้ชมเฉพาะกลุ่มมาช้านาน แต่ปัจจุบันยังตามหลังสื่ออื่นๆ เช่น โทรทัศน์ในฐานะช่องทางในการโฆษณาแบรนด์แบบครอบคลุม อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของผู้จัดพิมพ์ที่มีอิทธิพลในวงกว้าง เช่น Facebook ทำให้ปัจจุบันนักการตลาดมีทางเลือกอื่นในการเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก ในทำนองเดียวกัน การมีเมตริกข้ามหน้าจอที่แท้จริงช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าดิจิทัลสามารถเสริมและเติมเต็มการลงทุนในทีวีได้อย่างไร
ในความเป็นจริง จาก การศึกษาของ Nielsen เมื่อเร็ว ๆ นี้ซึ่งได้รับมอบหมายจาก Facebook ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก พบว่าสำหรับกลุ่มอายุบางกลุ่ม Facebook สามารถเพิ่มการเข้าถึงได้อย่างมีนัยสำคัญหรือซ้ำซ้อนกับเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประชากรที่อายุน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาวิจัยพบว่า:
- ในช่วงกลางวัน Facebook เข้าถึงเครือข่ายทีวีได้เทียบเท่าหรือเกินกว่าเครือข่ายทีวีทั้งสี่เครือข่ายที่วัดได้ ตัวอย่างเช่น สำหรับผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี Facebook เพิ่มการเข้าถึงเครือข่ายทีวีได้เพิ่มขึ้น 41 เปอร์เซ็นต์ในช่วงกลางวัน
- ในช่วงไพรม์ไทม์ ซึ่งเป็นช่วงที่เครือข่ายโทรทัศน์เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า Facebook Facebook ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเข้าถึงซ้ำซ้อน ซึ่งหมายความว่านักการตลาดสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเดียวกันทางออนไลน์และทางโทรทัศน์ได้ ตัวอย่างเช่น สำหรับผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ Facebook มีส่วนสนับสนุนการเข้าถึงซ้ำซ้อนสูงถึง 36 เปอร์เซ็นต์ให้กับเครือข่ายโทรทัศน์ทั้งสี่แห่งที่วัดผลได้

แม้ว่านักการตลาดควรคำนึงถึงตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น เวลาที่ใช้ การมีส่วนร่วม และความถี่ในการประเมินประสิทธิผลของโฆษณาออนไลน์ แต่การศึกษาล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า Facebook สามารถเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพมากในการขยายการเข้าถึงแบรนด์
เนื่องจากผู้โฆษณาแบรนด์หันมาใช้แคมเปญแบบบูรณาการที่เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นไม่ว่าจะใช้สื่อใดก็ตาม การทำความเข้าใจวิธีการบรรลุวัตถุประสงค์ของแคมเปญ เช่น การเข้าถึง จึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ พลังของเครื่องมือวัดแคมเปญโฆษณาที่ครอบคลุมหลายช่องทางสื่อ ซึ่งช่วยให้ผู้ทำการตลาดสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบด้านและรอบด้านเกี่ยวกับการลงทุนงบประมาณของตนก็ชัดเจนเช่นกัน
คลิกที่นี่ เพื่อดูรายงานฉบับเต็ม
หากต้องการความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้นำทางความคิดเกี่ยวกับการโฆษณาแบรนด์ โปรดอ่าน Online Advertising Performance Outlook ของ Nielsen ปี 2013